ช่องทางทำกิน (ทำงานที่บ้าน)

จากโพสต์ครั้งที่แล้ว นิดได้มาเล่าเกี่ยวกับการทำงานที่บ้าน ซึ่งเราเองก็ได้ทดลองกันมาหลายวิธี และวิธีที่จะนำเสนอวันนี้ คือ การขายของบน Ebay

เรียนรู้วิธีการขายกับEbay

เรื่องเล่าจาก Club Friday

วันนี้ขอเล่าเรื่องเล่าจาก Club Friday เรื่องจริงจากคนฟังทางบ้าน ที่โทรเข้ามาเล่าประสบการณ์ รัก สุข เศร้า เหงา ทุกข์ แล้วแต่หัวข้อของดีเจ พี่อ้อย-พี่ฉอดในแต่ละสัปดาห์ จากรายการวิทยุที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เรื่องราวต่างๆก็มากมาย จนเกิดขึ้นเป็นหนังสือ และตอนนี้ถูกจัดทำเป็นซีรีย์ ซึ่งตอนนี้มาถึง Season2 แล้ว

วันนี้เรื่องที่ถูกเล่าผ่านจอ คือเรื่อง "เรื่องเล่าวันวาเลนไทน"

เรื่องมีอยู่ว่า สามีภรรยาคู่หนึ่ง..(คนที่โทรเข้าไปเล่าในรายการคือภรรยา) ทั้งคู่แต่งงานอยู่ด้วยกันมา 6 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน ในวันวาเลนไทน์ปีนี้ สามีนัดภรรยามาทานข้าวด้วยกันนอกบ้าน ภรรยาดูดื่นเต้นมาก เมื่อทั้งคู่พบกัน ได้นั่งรับประทานอาหารด้วยกัน คุยกัน และสามีก็ได้กล่าว "คุณเหนื่อยที่ต้องดูแลลูกๆมากใช่มั้ย ผมอยากจะหาตัวช่วยให้คุณ อืม! เดี๋ยว ผมพาเข้ามาเลยดีกว่า" แล้วสามีก็พา ภรรยาน้อยเข้ามานั่งอยู่ด้วยกัน "ผมขอแนะนำ นี่คือตัวช่วยของคุณ เธอเป็นคนดีมาก ผมขอคบกับเขา เขาจะดูแลผม และเขาจะยอมคุณทุกอย่าง ผมขอเวลาแค่บางช่วงเวลาที่ไปพบกับเขา"  เล่นเอาคุณภรรยาอึ้งไปเลยค่ะ "แล้วฉันละ ฉันอยู่ตรงไหน" "คุณก็อยู่ของคุณกับลูกๆ ผมก็ยังอยู่กับคุณแค่ขอเวลาอยู่กับเขาบ้างเท่านั้นเอง" มันช่างเป็นของขวัญวันวาเลนไทน์ที่น่าปวดใจที่สุด

เธอ ทน ปวดใจกับเรื่องราวมาเกือบปี มันอยู่บนความทุกข์ทนทรมานจริงๆ ในบางครั้งเขาอยู่กับเธอแค่ตัว แต่ใจ เขาอยู่กับผู้หญิงอีกคน ด้วยโลกที่เทคโนโลยีมันใกล้กันแค่เอื้อมไม่่ว่าจะ Line หรือ Facebook บางครั้งไม่ได้อยากรู้ แต่ก็ต้องได้รู้ และรับรู้มัน แต่วันนึง เขาและเธอคนนั้นเกิดทะเลาะกัน ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่ เมื่อทำให้สามีภรรยาคู่นี้ได้กลับมามีความสัมพันธ์กันอีกครั้ง 

ณ วันวาเลนไทน์ (เรื่องนี้ดำเนินมาครบปี) หนึ่งคนนั่งฉลองวาเลนไทน์ที่บ้านคนเดียว พร้อมทั้งมีข่าวที่จะแจ้งกับสามี ส่วนอีกหนึ่งคู่กำลังมีความสุข ณ ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ดอกไม้ และไวน์ เธอพยายามโทร หาสามี สายแรก เขากดทิ้ง และโทรอีก เมื่อเขารับสาย เธอถึงบอกว่า "ฉันท้องลูกของเราคนเล็ก" แต่สิ่งที่เธอได้ยินตอบกลับไป กลับเป็นเสียงดุด่า ต่อว่า "ทำไมคุณต้องทำร้ายด้วยกันท้องอีกด้วย ผู้หญิงของเขาเป็นคนดีมาก ทำไมคุณต้องทำร้ายจิตใจเขาด้วยการท้องด้วย" อ้าว! กลายเป็นเมียหลวงทำอะไรก็ผิด ผิดหมดทุกข้อเลยค่ะ มันก็คงถึงขีดสุดของเธอแล้ว เธอจึงตอบกลับไปว่า "งั้นต่อไปนี้ ฉันก็จะมีชีวิตของฉันกับลูกของฉัน คุณอยากจะไปไหนก็ไป" กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ เธอผ่านอะไรมามากมาย และในที่สุด ความอดทนมันจบ ขอให้เธอก้าวต่อไปอย่างเข้มแข็ง

คลิปยูทูปจะตามมาเร็วๆนี้นะคะ

ทำงานที่บ้าน,ทำงานบนอินเตอร์เน็ต ภาค 1

จากความพยายาม พยายาม พยายาม ทำโน้นนี่นั้นมาหลายอย่างบนโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะขายของออนไลน์ พยายามจะเขียนบล็อก เพื่อเอาโฆษณามาติดเป็นรายได้ ลองขายของในeBay ณ ตอนนี้ ยังไม่มีอะไรสำเร็จเป็นรูปเป็นร่างสักอย่าง อาจจะมีเพียงการขายของออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นผ่านเฟสบุ๊ค หรือการโพส ที่จะพอขายได้ แต่ถามว่าได้ทำเป็นร้านใหญ่โต มีลูกค้าสั่งทุกวัน วันละหลายๆ order รึเปล่า....ไม่เลย....

จุดอ่อนของตัวเราเองคืออะไร ทำไม ทำมาตั้งนานแล้วยังไม่สำเร็จสักที
1. เริ่มต้นด้วย eBay สำหรับส่วนนี้ ถึงกับลงทุนไปเรียนมาเลยนะ กลับมาไฟแรงก็อยากจะลองทำ แต่พอติดปัญหาปุ๊บ แก้ไม่ได้ จอดเลย คราวนี้จอดนาน ทิ้งไปหลายเดือน จากเดือน ผ่านไปเกือบปี แต่ความพยายามก็พอจะมีบ้างนิดๆหน่อยๆก็ยังดี เนื่องจากว่าเอาตัวเองไปแฝงไว้ในกรุ๊ปที่เคยไปเรียน คราวนี้เห็นความคืบหน้าของชาวบ้านชาวช่องเค้า เออ! คนอื่นเค้ามีงานส่งออกกันแทบทุกวัน เรายังไม่เดินหน้าไปไหนเลย แล้วดีว่าในกรุ๊ปนั้น ก็มีคนเริ่ม เริ่มแล้วติดปัญหา เอามาแชร์กัน เราไม่ได้เป็นคนเดียวที่มีปัญหา แต่ปัญหาของเราคือเราไม่ค่อยสานต่อ (เป็นข้อเสียของตัวเองที่เลวร้ายมา) นี่แหละมั้ง แรงจูงใจ ทำให้พยายามทำขึ้นมาอีกครั้ง แล้วตอนนี้คือบทพิสูจน์ของตัวเองจริงๆ เราติดปัญหาเดิมๆ แต่คราวนี้เราได้โทรหา email ติดต่อกับทาง eBay เพื่อให้เค้าช่วยแก้ไขในปัญหานี้ให้....ณ ตอนนี้ก็ยังรอคำตอบจาก eBay อยู่ จะพยายาม และสัญญาจะไม่ละมันให้ผ่านไปอีกแล้วคราวนี้ สู้ๆ จ้า

2. การขายของออนไลน์ ในยุคที่ Facebook เป็นการสื่อสารที่ง่าย สามารถติดต่อได้อย่างง่ายดาย ร้านออนไลน์ใหม่เกิดขึ้นอย่างง่ายดายและรวดเร็ว มีทั้งจริงทั้งหลอก ก่อนจะเป็น Facebook เราเองก็เคยทำเวปขายของมาแล้วเหมือนกัน ตอนนั้นทำไปแบบไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรด้วยซ้ำ ทำแบบง่ายๆ โปรแกรมสำเร็จรูปที่เสียค่าเช่าพื้นที่ให้เจ้าของพื้นที่ เมื่อปีที่แล้ว ได้มีโอกาสไปต่างประเทศโซนยุโรป ตอนแรกก็ไม่ได้แพลนธุรกิจบนโลกออนไลน์เลย แต่บังเอิญไปแล้วไปเจอรองเท้า Fitflop เซล 50% โห ถูกขนาดนี้ ต้องทำอะไรสักอย่างแล้วละ เราเลย ถือโอกาสนี้ รับหิ้วรองเท้ากลับมาไทย ลูกค้าส่วนใหญ่ที่ได้ มาจาก Facebook 80% เลยทีเดียว เป็นคนที่ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยคุยกันมาก่อน ทำการตกลงซื้อขายกัน อย่างสนุกสนาม ลูกค้าก็อยากได้รองเท้า แม่ค้าก็อยากให้ลูกค้าพึ่งพอใจในบริการ กำรี้กำไรไม่ต้องพูดถึง ได้มาแค่นิดๆหน่อยๆเท่านั้น ความสุขที่ได้ทำ น่าจะสำคัญกว่า นี่แหละ เค้าเรียกว่าโอกาส แต่โอกาส มันก็หยุดอยู่เพียงเท่านี้แหละคะ รายได้ที่ได้มา มันไม่ได้มากมายเป็นกอบเป็นกำอะไร แค่พอเลี้ยงชีพไปวันๆ เราคนยุคปัจจุบัน หนี้สินบ้าน รถ บัตรเครดิต ก็มีแบบคนทั่วไป หนี้ยังไม่หมด เราก็ยังต้องดิ้นกันต่อไปค่ะ

3.การเขียน Blog เมื่อคุณเข้ามาสู่โลกออนไลน์ และเริ่มที่จะทำความรู้จักกับมัน คำว่า สายดำ หรือ สายขาว ตอนไปเรียน eBay ก็ยังงงๆกับคำนี้ แต่พอเริ่มหัดเขียน Blog จากหาข้อมูลมากขึ้นมาเรื่อยๆ เริ่มไปเห็นข้อมูลบางอย่าง เลยเข้าใจอ๋อ อย่างนี้นี่เอง เค้าเรียกว่าทางสายดำ ก็ไม่รู้ว่าจะต้องพยายามกันไปอีกเท่าไร สำหรับการเป็น Blogger กว่าจะได้เงินได้รายได้จากตรงนี้ แต่ก็จะพยายามไม่ทิ้ง คงไม่แก่ไปซะก่อนเนอะ

สรุป ใน 3 รายการที่ทำมา การขายของที่พอจะสู้กันได้ แต่ก็ไม่ง่าย เนื่องจากเดี๋ยวนี้พ่อค้า แม่ค้าบนโลกออนไลน์ก็ขยันโผล่กันมาเป็นนักธุรกิจมือใหม่เรื่อยๆ ยิ่งขยันเป็นข่าวเสียๆกันด้วย บางทีปลาเน่าตัวเดียว ก็ทำให้เน่าได้ทั้งคอกได้

ไว้มาต่อภาค 2 ให้นะคะ ถ้าสำเร็จในส่วนใด ส่วนหนึ่ง ประสบการณ์จริงที่ทำมานาน (อ๋อ อ่านมาตั้งนาน คงสงสัยใช่มั้ยค่ะ ว่าเอ๋ะ สรุปมีงานประจำทำรึเปล่า เพราะจากที่ว่ามา 3 งานบนโลกออนไลน์นี้ ยังไม่มีส่วนไหนได้เงินจริงจังเป็นกอบเป็นกำสักอัน....มีงานประจำทำค่ะ ทำงานส่วนตัวที่ทำให้มีเวลาสามารถทำงานบนโลกออนไลน์ได้เหลือเฟือ แต่นี่แหละ ยังไม่คืบไปไหนมาไหนเลย)

สงกรานต์ที่บ้านเกิด

หลายปีแล้วที่เราไม่ได้กลับบ้านเกิดของเรา...มาปีนี้เรากลับไปพร้อมแฟนของเราซึ่งเค้าเป็นชาวต่างชาติ...เราพาเค้ามาที่นี่ อยากให้เค้ารุ้ ว่าเราเกิดมาจากแวดล้อมแบบไหน สังคมที่เราเติบใหญ่ขึ้นมาเป็นอย่างไร...เรามาช่วงสงกรานต์พอดี ไม่ต้องพูดถึง ว่าแฟนเราอยากเล่นสงกรานต์มั้ย เตรียมหาปืนพร้อม
แหละแล้ววันสงกรานต์ก้อมาถึง ตอนเช้าเรานัดกับเพื่อนว่าจะไปวัดกัน ตามขนบธรรมเนียมไทย เพื่อนสมัยเมื่อวัยเยาว์ของเรา มาทุกวันนี้ทุกคนเปลี่ยนไป เป็นผู้ใหญ่ที่พร้อมสานวัฒธรรมไทยดีๆ แต่เจ้ากรรม ฝนตกกระหน่ำเหมือนไม่อยากหยุดมาก เอาละทำงัยดี ไปวัดก้อไม่สะดวกแล้ว เพราะเราก้อมีมอเตอร์ไซต์ ออกไปเปียกแน่นอน นอนรอไปเลย จนบ่ายโมง เหมือนรู้เวลา เปิดฟ้าให้เด็กได้ไปเล่นน้ำกัน เราเลยแต่งตัวออกมาพาแฟนไปเล่นน้ำ ว๊าว แปลกแหะ ภาพที่เราจำได้ที่นี่เล่นน้ำสงกรานต์กันได้แย่มาก จับนมผู้หญิง เล่นไม่สุภาพ จนทำให้เราเลิกเล่นไปเลยตั้งแต่จบม.3 แต่ภาพตรงนั้นหายไปหมด....การเล่นน้ำที่นี่ถูกจัดระเบียบให้เล่นได้แค่สายเดียว คือหน้าโรงเรียนเก่าเราเลย ยาวไปสุดทางเส้นเดียวเท่านั้น แต่ก้อระยะทางหลายกิโลทีเดียว มีตำรวจยืนควบคุมเป็นจุดๆ คอยสอดส่องดูแล น่ารักมากเลยจิงๆ เรากับแฟนเดินไปตามทางเล่นน้ำ แฟนมีอาวุธปืนคอยฉีดน้ำ ส่วนเราเดินไปเป็นเพื่อนเฉยๆ แฟนเราเป็นจุดสนใจมาก เนื่องจากเป็นฝรั่ง ใครๆ ก้ออยากขอปะแป้ง จนเราเนี้ย เหมือนคนใช้เดินตามอะไรประมาณนั้น แต่เห็นเค้าสนุกก้อสนุกด้วยแล้ว
ความสนุกมันก้อมาถึงจุดอิ่มตัว เมื่อเริ่มเหนื่อย ก้อต้องพัก แล้วก้อโชคดีที่นี้ไม่ได้เล่นกันตะบั้น จนค่ำคืน แค่พอเริ่มเย็นมาก ทุกคนก้อต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน สงครามน้ำสงบลง แยกย้ายบ้านใครบ้านมัน นี่แหละ ความน่ารักของเมืองนี้ ด้วยความร่วมมือของทุกคน ทุกอย่างเลยดูเป็นระบบระเบียบ น่ารักเป็นที่สุด กลับบ้านมาคราวนี้เรารู้สึกเลยว่าประทับใจมากกกับการดูแลการปกครองที่ทำให้บ้านเมืองได้เป็นระเบียบขนาดนี้ ไม่อายชายต่างชาติจิงๆเล๊ย




เสร็จจากความสนุก เราก้อต้องไปหาวัฒนธรรมของเราอีกซิ ถึงแม้ตอนเช้าเราจะไม่ได้ไปวัด แต่มีพระประจำบ้านที่เราต้องไปหา นั้นก้อคือแม่ วันนี้เราได้กลับขอขมาแม่ เป็นโอกาสดีที่ได้ทำครั้งแรกในชีวิตเลย เขินมาก แต่ก้ออยากทำมานานแล้ว จับแม่ล้างเท้าด้วยดอกดาวเรืองกวักน้ำที่ล้างเท้าแม่มาประหัวตัวเอง ที่จิงถ้าเป็นไปได้เอาเท้าแม่ยกมาเตะหัวเราก้อได้นะ แต่เราเหมือนเก้ๆกังๆ เขินด้วย ไว้คราวหน้าละกัน คราวนี้ตื่นเต้นประม่า หลายอย่างพลาด น้ำที่เราล้างเท้าแม่เสร็จก้อดื่มได้ เราก้อเอามาดื่มนิดนึงนะ พอเป็นพิธี แต่พลาดอีกแทนที่จะเอาน้ำที่เหลือไปรดน้ำต้นไม้ ดันไปรดลงในห้องน้ำ เห้อแย่จิง ดีมาตลอด เสียตอนท้าย

นอกจากแม่แล้วเรายังมียาย ญาติผู้ใหญ่อีกคนที่ต้องไปรดน้ำให้ท่าน เราก้อไปกับแม่ และแฟน ทุกคนได้รดน้ำให้ยาย รวมถึงแฟนด้วย แฟนเราไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน เราเองก้ออยากสอนให้เค้าเข้าใจวัฒธรรมไทยดีๆ ให้เค้าได้รู้จัก ภาพนี้เป็นภาพที่ทุกคนในบ้านเห็นแล้วปลื้มใจมาก ตัวเค้าเองไม่รุ้ตัวหรอก เพราะเค้าเองก้อเป็นชาวต่างชาติคนแรกที่เข้ามาในครอบครัวของเราเหมือนกัน เค้าได้รับการตอบรับจากคนในครอบครัวของเราเป็นอย่างดี ถึงแม้เค้าจะพูดไทยไม่ได้ ถึงแม้คนในครอบครัวเราจะพูดกับเค้าได้มั้งไม่ได้มั้ง แต่ทุกคนก้อรักเค้า

สงกรานต์ปีนี้ สุขใจเหลือเกินที่บ้านเกิด

City of Angles Tournament, 2013 at Bkk

City of Angles Tournament, 2013 at Bkk

28-30 March 2013, at The Rink Arena Central plaza rama9. Team is name "Jellonas Finland" all team from finland.

1st Game. 28 March 2013. Start game and win team "Jakarta dragons" 2-6

2. Game. 29 March 2013. Have game with "Singapore" 6-0 win again

3 Game 29 March 2013 Have game with "Tokyo". This match not easy hv 5 time to play and win 6-7. Excited!!!!

4 Game 30 March 2013. Last game finish becuse lose with "mosco" team oh it very strong team but it ok. This tournament coming to final day and have party this evening i hope everybody enjoy and fun after game. Yes! Sure i enjoy to see them happy tooo!!!!

What is "Pakama"

Creative Culture: the Wonderful and Versatile Pakama

The clothing culture of Thailand has various beautiful types. But there is a significant one made from chintz that is called ‘Pakama’. The yarn dyed fabric has been a cultural symbol of Thais for more than nine hundred years. A lot of Thais are familiar with it from a young age. In the past it was worn more by men than women. There are many advantages from using Pakama. Firstly, it was able to wipe sweat, remove scurf from the body. Men liked to place it on their shoulder, tie it around the waist and carried it when they took a trip. It was not worn to be fashionable or for decoration. Secondly, it was clothing to cover the body and it usually used for the lower-part and the upper-part, if there was no prohibition in the use for the upper-part. It was comparing to a normal appliance. Thirdly, it was used mainly for people apparel or cover in the rural areas, city people remarked it as funny and out-trend. The development of the versatility of the Pakama from past to present can be seen by its use for dressing-up, taking a bath, tie around the waist, sew up to make clothes, shoes, making bed linen, pillow, sheet, towel, head-band, cradle-tie for children, protection from the sun, making beautiful stage decoration, to be a souvenir or gift. Therefore, these perceived advantages of the Pakamas have disappeared from Thai society at the present and the Pakama is seen to be strange and unfashionable. The author is interested with this cloth and would like to present its development in individual regions. The aforementioned details show the chintz being used for the versatile ‘Wonder Pakama’ by the creative thinking of Thais.

วัฒนธรรมสร้างสรรค์  มนต์เสน่ห์แห่งผืนผ้าลายตาราง

นามว่า “ผ้าขาวม้าสารพัดนึก”

วัฒนธรรมบนผืนผ้าอันสวยสดงดงามของไทย  มีมากมายหลายหลาก  แตกต่างกันออกไป  แต่อีกหนึ่งลวดลายที่โดดเด่น คือ ผ้าลายตาราง ที่ใครๆ มักเรียกขานกันว่า “ผ้าขาวม้า”  ผ้าทอลายตาราง  ผ้าทอลายนี้จัดเป็นสัญลักษณ์สัมพันธ์ทางวัฒนธรรมที่อยู่เคียงคู่มากับคนไทยกว่าเก้าร้อยปี   คนไทยจำนวนมากมีความใกล้ชิดกับผ้าชนิดนี้มาตั้งแต่เด็กจนโต  ผ้าขาวม้าในอดีตเป็นผ้าที่ควรคู่กับผู้ชายมากกว่าผู้หญิง  เหตุผลประการแรกเพราะ งานหลักของผ้าขาวม้าคือ ผ้าที่ใช้ขจัดสิ่งปฏิกูล เหงื่อไคลออกจากร่างกาย ผู้ชายมักใช้พาดบ่า  เคียนเอว  พกพาเวลาเดินทางไกล ไม่ใช่ผ้าที่ใช้เสริมความงาม  ประดับตกแต่งเรือนร่าง   ประการที่สอง ผ้าขาวม้าเป็นผ้าที่ใช้ในพื้นที่ส่วนตัว และมักใช้กับส่วนล่างของร่างกาย แม้นจะไม่มีข้อห้ามในการนำเอามาใช้กับส่วนบนของร่างกายก็ตาม  ผ้าขาวม้าจึงเปรียบได้กับของใช้ธรรมดาชิ้นหนึ่ง  ประการที่สาม ผ้าขาวม้าส่วนใหญ่ใช้เพื่อนุ่งห่มหรือปกปิดร่างกายของคนในแถบชนบทเสียเป็นส่วนใหญ่  คนเมืองจึงมองว่าเป็นเรื่องตลก และเชย  บัณฑิต  ปิยะศิลป์.  

 จากการนำผ้าขาวม้าไปใช้ได้สารพัดประโยชน์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน  จึงทำให้เกิดการพัฒนารูปแบบการใช้ไม่ว่าจะเป็นนุ่งเล่น  อาบน้ำ   เคียนเอว  นำมาตัดเย็บเป็นเสื้อผ้า  รองเท้า  ทำชุดผ้าปูที่นอน  หมอน  ผ้าห่ม  ใช้เช็ดตัว  คาดศรีษะ  ผูกเป็นเปลนอนให้กับเด็กๆ  ใช้เป็นผ้ากันแดด  ตกแต่งเวทีสวยงาม   เป็นของที่ระลึก  และเป็นของฝาก  อื่นๆ อีกมากมาย   ส่งผลต่อความคิดที่ว่าใช้ผ้าขาวม้าแล้วตลก และเชยหายไปจากสังคมไทยในปัจจุบัน   ผู้เขียนรู้สึกหลงใหลในมนต์เสน่ห์แห่งผืนผ้าลวดลายตารางที่ว่านี้  จึงอยากนำเสนอเรื่องราววิวัฒนาการของผ้าขาวม้า  พื้นที่ทอผ้าขาวม้าในแต่ละภูมิภาค  รายละเอียดดังกล่าวจะสะท้อนให้เห็นภาพผ้าขาวม้าลายตารางสารพัดประโยชน์  ที่พัฒนามาเป็นผ้าขาวม้าสารพัดนึกภายใต้ความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย

cr: ดร.ธีรกานต์  โพธิ์แก้ว

Do you Know Pattaya City

Pattaya City for First Time Travelers

Pattaya City is an internationally well-known seaside resort, Pattaya is also a vibrant city by night and by dar. Pattaya offers a coulurful potpourri of mixed nationalities from near and far. Pattaya has a vast range of tourism-related activities. Pleausres of Pattaya range from relaxing on the beach, to sea-based sports, to visiting the scores of local attractions in and around Pattaya / Chonburi.

The half-mone-shaped Pattaya Beach is 4 Kilometers long with a road running parallel to he beachfront.  From middle-section to the southern end of Pattaya Beach are many restaurants, bars, department stores, souvenir stores, as well as other places of entertainment. Khao Pattaya (Khao Phra Bat) is a small hill to the south of Pattaya Beach. The view point on the hilltop offers a panoramic view of Pattaya City and Pattaya Bay.

Jomtien Beach is located 2 Km. south of Pattaya. Jomtien Beach beach has a long straight coastline and some argue the better beach to that of Pattaya Beach. There is very little transition from Sounth Pattaya to Jomtien. A hotel lined boardwalk connects the two areas.  The inner Soi streets of Jomtien Beach offer less choas than those of Pattaya.

I would like to show you around Pattaya. Let's see and hang out with me. This is example nice place.

Zone :

Sightseeing :

Eating out :

Nightlife :

Events :

Outdoor activity :

Beach :

Coffee and Cake :

Shopping :

Nearby Destinations :  Sai Keaw Beach 

Let's go to the beach

My vacation trip to the beach on 17 to 23 December 2012. This trip started from Ao Nang Krabi, Lanta Island and ended at Phuket.

Ao Nang has a nice beach and small island. Then we took a boat across Hong island and small island around there.We swam, relaxed took photos until evening. Next, we came back to our hotel. Dinner time,We went to the walking street and choose a good thai restaurant for dinner. We finished trip at Ao Nang.

Next we went at on ferry to Lanta Island took time about 2 hrs. We arrived hotel and got surprise from hotel. we got nice room and nice location.  It was opposite the beach then relaxed on the balcony. I  took many photos and fun with sea and sand on the beach. This island very quiet. It was good time to relax.

Finally, We took a ferry across to Phuket. We rented one  motorbike and rode around a small beach and city town. It was crowded with tourists and nice place for a party.

It was a great trip! 7 days on beach and different places.

****This is my homework from school but it true story****

****Pls Follow Me!! with more story on the beach, Ao Nang Krabi, Lanta Island and Phuket, It was guide for your trip*****

Sai Keaw Beach.....หาดทรายแก้ว (สัตหีบ)

เที่ยวครึ่งวันสบายๆที่หาดทรายแก้ว (สัตหีบ) ทะเลสวยในเขต โรงเรียนชุมพลทหารเรือ

Half Day Trip to Sai Keaw Beach (Sattahip) Nice Beach in the Chumpol Sattahip

หาดทรายแก้ว....อีกหนึ่งหาดที่ได้รับความนิยมในสัตหีบ ไม่ไกลจากพัทยามากนัก เป็นหาดที่อยู่ในค่ายทหารเรือ หรือสังเกตุง่ายๆก้อคือโรงเรียนชุมพลทหารเรือ..โรงเรียนฝึกทหารใหม่นั้นเอง หาดนี้ได้รับการดูแลโดยหน่วยงานของค่ายทหารเรือด้วยการดูแลของเหล่าทหาร หารนี่เองจึงทำให้ที่นี่ยังคงอนุรักษ์ความเป็นธรรมชาติอยู่ ขนาดของชายหาด ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไปนัก มีร้านอาหาร มีร้านค้า ให้บริการหน้าชายหาด

Sai Kaew Beach (Hat Sai Kaew) is one of popular beaches in Sattahip. There are a lot of people visiting this place. This might be because from Pattaya city it is the nearest navy beach in Sattahip area. It would suit those who would like to see different views when visiting Pattaya. This beach is located in the Chumpol Sattahip Naval School, so the beach is also taken care by Thai navy. The length of Sai Kaew Beach is either not too short or not too long. There are a few restaurants and small shops available at the beachfront.

เดินทางไปอย่างไร? จากพัทยา มุ่งหน้าไปสู่ทางสัตหีบ ผ่านส่วนนงนุชไปไม่มากนัก ให้ชิดขวามองโรงเรียนชุมพลทหารเรือ สามารถเลี้ยวขวาเข้าไปได้เลย จะมีด่านทหารตรวจ ให้ลงแลกบัตรก่อน หลังจากนั้น ตรงไปโล๊ดค๊า มีป้ายบอกทาง ไม่หลง ขับไปจนสุดทาง จอดรถแล้วลงไปจ่ายเงินที่ป้อมพี่ทหาร คนไทย 30 บาท เป็นค่าบำรุงรักษาชายหาด+ค่ารถสำหรับขึ้นเขาเข้าหาดด้วยค่ะ ไม่ต้องขับรถขึ้นไป

How to drive? From Pattaya to the way Sattahip. Drive cross Nong Nuch Garden left side and keep right look Chumpol Sattahip Naval School, then turn right and drop at checkpoints for change visitor card. after then drive straight on the way and have notice tell the way.  Additionally, the charge of entrance fee is 80 baht. 

ที่นี่เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้ามาเยี่ยมชม พักผ่อนได้กว่าสิบปีแล้ว (มกราคม 2546) มีทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ เข้ามาพักผ่อน เป็นชายหาดที่ยังอุดมไปด้วยธรรมชาติ ชาวต่างชาตินิยมมาพักผ่อนตากอากาศ ส่วนกลุ่มชาวไทย เราก้อจะเห็นเป็นกลุ่มครอบครัวมาปิคนิคกันเป็นส่วนใหญ่ มีที่พักสำหรับผู้ที่ต้องการพักค้างคืน สามารถติดต่อจองล่วงหน้าได้ เนื่องจากไม่ได้มีมากมาย ซึ่งอาจจะเต็มในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ และมีอาหาร เครื่องดื่ม ขนมขบเคี้ยวต่างๆก้อมีไว้ให้บริการแน่นอนค่ะราคาแพงกว่าปกตินิดหน่อย เบอร์ติดต่อห้องพัก ด้านล่างค่ะ

Although this beach is the newest beach in Sattahip, there are lots of tourists visiting it. You can see foreigners sunbathing there, while local Thai Visitors prefer to picnic there. And because there are so many people, expenses for cleaning and supporting are required. Therefore, the charge of entrant fee is about 80 baht. Those who would like to stay here for a night or more can book for a room as well. Note that the price for food, drinks and snacks, are a little more expensive than standard, though

แหล่งอ้างอิง :
จากเวปไซต์ สำหรับเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ http://www.pattayaconcierge.com/specified-place/sai-kaew-beach/200800000132/attraction/ และบางส่วนเพิ่มเติมจากการไปเที่ยวมาเอง

ภาพประกอบ by my self

หมายเหตุ : มือใหม่ หัดเขียนบล็อกค่ะ การเขียนเรื่องราวอาจจะยังไม่ค่อยสนุกเท่ารัยนะคะ แต่สถานที่ท่องเที่ยวที่นี่ ผู้เขียนได้ไปมาแล้วจริงๆ น้ำใสสะอาดกว่าพัทยาเยอะคะ เหมาะแก่การพักผ่อน

Contact information:
Address: In the area of Chumpol Sattahip Naval School
Tel: +66 (0)-3843-6187ext. 2201-2